top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนDano Yuvasuta

เสียงดนตรีช่วยให้เรียนเก่งขึ้นได้ จากงานวิจัยที่ Harmony Project,Los Angeles


นักวิจัยค้นพบพัฒนาการสมองของเด็กๆที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ยากจนนั้น จะมีความรับรู้ด้านเสียงแตกต่างกับเด็กๆที่มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่า แต่ผลการศึกษาชิ้นล่าสุดระบุว่าการฝึกฝนสมองของเด็กๆที่ยากไร้ ด้วยเสียงดนตรี สามารถช่วยพัฒนาศักยภาพด้านการเรียนรู้ของเด็กๆเหล่านั้นได้ดีมากขึ้น ข้อพิสูจน์นี้สัมผัสได้จากโครงการชื่อ 'Harmony Project' ที่นครลอส แองเจลิส

Karina บอกว่า เสียงและความรู้สึกที่ได้เล่นทรอมโบนคือสิ่งที่เธอประทับใจ เธอเรียนดนตรีมาแล้ว 5 ปีกับ โครงการฮาร์โมนี ( Harmony Project) ที่ Margaret Martin ผู้ก่อตั้งโครงการ คาดหวังที่จะมุ่งช่วยเหลือเด็กยากจนหรือมีปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ให้หันมาเรียนหนังสือและจบการศึกษาอย่างน้อยในระดับมัธยมด้วยการฝึกสอนเรียนดนตรี แต่สิ่งที่ได้กลับเหนือความคาดหมาย

ผู้ก่อตั้งโครงการ Harmony บอกว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 เป็นต้นมา นักเรียนโครงการของเธอที่จบชั้นมัธยมฯกว่าร้อยละ 93 สามารถเข้าไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยระดับคุณภาพของอเมริกาได้หลายแห่ง นอกจากนี้ยังพบว่าส่วนใหญ่สามารถเข้าเรียนในสาขาวิชาที่ใช้ทักษะสูง เช่น ด้านประสาทวิทยาทางการแพทย์ วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมทางการแพทย์ มานุษยวิทยาเชิงวัฒนธรรม และมีบางคนถึงขนาดได้รับทุนฟูลไบรท์ ซึ่งทำให้เธอประหลาดใจและคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเรียนดนตรี

แต่นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น Nina Kraus ที่ทำวิจัยและทดลองด้วยการติดเซนเซอร์ที่ศรีษะของเด็กๆในโครงการเพื่อวัดค่าตอบสนองจากเสียงเพลงก่อนและหลังการเรียนดนตรี พบว่าเด็กๆยากจนเหล่านี้มีกระบวนการตอบสนองต่อเสียงแตกต่างจากเด็กที่มีฐานะดีกว่าในการทดลองอย่างเดียวกัน

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์นกล่าวว่า สัญญานของระบบประสาทของเด็กๆที่มีฐานะยากจนมีการประมวลผลในรายละเอียดของเสียงต่างๆอย่างแม่นยำ แต่ความเปลี่ยนแปลงจะเห็นได้ชัดหลังจากที่มีการเรียนดนตรีต่อเนื่องมาแล้วกว่า 2 ปี ซึ่งเธอมั่นใจว่าเด็กๆที่เรียนดนตรีมีระบบประสาทในการตอบสนองต่อเสียงต่างๆ อย่างแม่นยำ และยิ่งเล่นดนตรีหรือเรียนดนตรีมากเท่าไหร่ ผลการตอบสนองก็จะดีขึ้นมากเท่านั้น แต่นักวิจัยท่านนี้ ออกตัวไว้ก่อนว่า ผลการวิจัยนี้เป็นเพียงการศึกษาเฉพาะเด็กๆในโครงการฮาร์โมนี เท่านั้น ซึ่งยังคงเป็นกลุ่มเล็กๆและยังคงต้องศึกษาและพิสูจน์การทดลองนี้ในกลุ่มทดลองที่ใหญ่และหลากหลายมากขึ้น

Ivan Ignacio Arce เยาวชนที่เรียนดนตรีในโครงการ ฮาร์โมนี บอกว่า ดนตรีช่วยพัฒนาทักษะการเรียนในหลายๆอย่าง เขาค้นพบด้วยตัวเองว่า เขาสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้น มีส่วนร่วมในห้องเรียน ถกเถียงพูดคุย กับเพื่อนร่วมชั้นและคุณครูได้อย่างสนุกสนาน

เช่นเดียวกับ Karina สาวน้อยผู้หลงไหลใน เครื่องเป่า ทรอมโบน ก็ยอมรับเช่นกันว่า แม้แต่วิชาคณิตศาสตร์ ที่เคยยาก ยังง่ายขึ้นสำหรับเธอเพียงเพราะจังหวะดนตรี การนับเลขและคิดเลขก็ยิ่งง่าย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าดนตรีช่วยเธอพัฒนาการเรียนได้จริงๆ

Margaret Martin ผู้ก่อตั้งโครงการฮาร์โมนี บอกทิ้งท้ายว่า หากเราต้องการที่จะลดช่องว่างทางการศึกษาลง บางทีดนตรีอาจจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบรรจุเข้าเป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการศึกษาชั้นเรียนตั้งแต่ชั้นประถมเลยก็ยังได้

เรียบเรียงจาก : http://www.voathai.com/a/music-learning-study-pt/2478995.html


ดู 274 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page